ผู้จัดการคลินิกทันตกรรมที่มีหลายสาขาย่านสาทรเคยถามไอยาว่า “ทำไมสาขาใหม่ถึงไม่มีตัวตนบน Google เลย ทั้งที่ตั้งอยู่ในทำเลทอง?” นี่คือความเจ็บปวดที่เจ้าของธุรกิจหลายสาขาในกรุงเทพฯ ต้องเจอ หลายคนเผลอสร้าง ‘จุดบอด’ ให้กับทำเลที่ดีที่สุดของตัวเองโดยไม่รู้ตัว วันนี้ไอยาจะมาเปิดคัมภีร์ยุคใหม่ที่จะช่วยให้ทุกสาขาของคุณเฉิดฉายบน Google และดึงดูดลูกค้าในพื้นที่ได้อย่างที่ควรจะเป็น
มองแต่ละสาขาให้เป็น ‘ธุรกิจหนึ่ง’ ที่แยกจากกัน
เวลาบริหารธุรกิจที่มีมากกว่าหนึ่งสาขา เรามักเผลอทำทุกอย่างให้เหมือนกันบนโลกออนไลน์ สร้างหน้าเว็บไซต์เดียวแล้วแค่ก๊อปปี้เปลี่ยนที่อยู่ วิธีนี้ง่ายก็จริง แต่นี่คือทางลัดที่จะทำให้คุณ ‘ล่องหน’ บน Google Maps ทันที เราต้องเริ่มคิดใหม่ว่าแต่ละสาขาคือธุรกิจที่แยกจากกันอย่างสิ้นเชิงในสายตาของ Google
ลองจินตนาการว่าคุณเป็นเจ้าของคลินิกทำฟันที่มีสาขาอโศกและสีลม หน้า Landing Page ของสาขาอโศกไม่ควรมีแค่ที่อยู่ แต่ควรเล่าถึงทันตแพทย์ประจำสาขา ความสะดวกสำหรับพนักงานออฟฟิศในตึกระฟ้าแถวนั้น หรือภาพบรรยากาศตรงเคาน์เตอร์ต้อนรับของสาขานั้นโดยเฉพาะ ส่วนหน้าของสาขาสีลมก็ต้องมีคำบรรยายที่ไม่เหมือนกัน เน้นจุดเด่นของทีมงานและย่านนั้น การทำแบบนี้จะบอก Google ว่าแต่ละสาขาคือธุรกิจที่มีตัวตนจริงๆ และสมควรได้รับพื้นที่ใน ผลการค้นหาแบบ Local Search
หน้าที่ใหม่ของคุณ: ป้อนข้อมูลให้ AI
พฤติกรรมการค้นหาของลูกค้ากำลังเปลี่ยนไป แทนที่จะแค่ค้นหาบน Google แล้วคลิกลิงก์ เดี๋ยวนี้พวกเขาหันไปถามผู้ช่วย AI อย่าง ChatGPT หรือ Gemini ของ Google กันแล้ว เครื่องมือเหล่านี้ไม่สนเทคนิคการตลาดแบบเก่า แต่ต้องการ ‘ข้อเท็จจริง’ ที่ถูกต้องแม่นยำ งานของคุณไม่ใช่แค่การทำ ‘SEO’ แบบเดิมอีกต่อไป แต่คือการป้อนข้อมูลที่ชัดเจนและอ่านง่ายให้ระบบเหล่านี้เข้าใจธุรกิจของคุณ
ข้อมูลวิจัยล่าสุดช่วงปลายปี 2025 ยืนยันกระแสนี้ โดยแนะนำให้ธุรกิจหันมาโฟกัสสิ่งที่เรียกว่า Generative Engine Optimization หรือ ‘GEO’ สรุปง่ายๆ คือการทำให้ข้อมูลทุกอย่างของทุกสาขา ตั้งแต่ชื่อร้าน เบอร์โทร เวลาทำการ ไปจนถึงบริการต่างๆ ถูกต้องและตรงกันทุกที่บนโลกออนไลน์ เมื่อ AI ค้นหา “สปาที่ดีที่สุดในสุขุมวิทที่เปิดหลังหนึ่งทุ่ม” ระบบจะมั่นใจและเลือกแนะนำร้านที่ให้ข้อมูลได้ชัดเจนและน่าเชื่อถือที่สุด

กับดัก Copy-Paste ที่ทำให้คุณไม่มีตัวตน
ข้อผิดพลาดใหญ่ที่สุดที่ไอยาเห็นเจ้าของธุรกิจหลายสาขาทำ คือการ ‘ทำซ้ำคอนเทนต์’ หลายคนลงทุนมหาศาลทำเว็บสวยๆ ให้สาขาหลัก (Flagship store) แล้วก๊อปปี้ข้อความไปแปะให้สาขาอื่น สำหรับเจ้าของที่ยุ่งตลอดเวลา วิธีนี้ดูเหมือนช่วยประหยัดแรง แต่สำหรับ Google มันดู ‘มักง่าย’ และไม่ให้คุณค่าใหม่ๆ แก่ผู้ค้นหา เป้าหมายของ Google คือการให้คำตอบที่ดีที่สุด และหน้าเว็บที่ก๊อปปี้มาแทบไม่เคยเป็นคำตอบที่ดีที่สุดเลย
ไอยาเคยร่วมงานกับลูกค้าเจ้าของเชนสปาหรูในกรุงเทพฯ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมสาขาใหม่ที่พร้อมพงษ์ถึงไม่มีลูกค้าจากออนไลน์เลย ทั้งที่ทำเลดีมาก พอเราไปเช็คก็พบว่าหน้าเว็บของสาขานั้นก๊อปปี้ข้อความมาจากสาขาทองหล่อเป๊ะๆ Google เลยมองข้ามสาขานี้ไปเพราะเห็นว่าเป็นเนื้อหาซ้ำคุณภาพต่ำ
แผนปฏิบัติการของคุณ: เริ่มทีละสาขา
อย่าเพิ่งตื่นตระหนก เริ่มจากสาขาที่สำคัญที่สุดก่อน เช็คข้อมูลบน Google Maps ว่าทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร เวลาทำการ ถูกต้องเป๊ะตาม แนวทางปฏิบัติของ Google หรือยัง จากนั้นไปที่หน้าเว็บไซต์เฉพาะของสาขานั้น เขียนคำบรรยายใหม่สัก 2 ย่อหน้าให้ไม่เหมือนใคร พูดถึงชุมชนแถวนั้น ทีมงาน หรือบริการยอดฮิตประจำสาขา และอย่าลืมใส่รูปถ่ายจริงจากภายในสาขานั้นๆ ด้วย ไม่ใช่รูป Stock Photo
การทำแบบนี้กับสาขาเดียวอาจไม่ยาก แต่ถ้าต้องดูแล 3, 5 หรือ 10 สาขา คงปวดหัวน่าดู ยิ่งต้องคอยเช็คว่าที่ทำไปได้ผลจริงไหม นี่คือจุดที่เครื่องมืออย่าง OnEveryMap จะเข้ามาเป็น ศูนย์บัญชาการของคุณ ระบบนี้ช่วยให้เห็นภาพรวมทันทีว่าสาขาไหนลูกค้าเห็นบนแผนที่แล้ว หรือสาขาไหนยังล่องหนอยู่ ช่วยให้คุณรู้ชัดเจนว่าต้องโฟกัสตรงไหนต่อ โดยไม่ต้องเดาสุ่มเลย