คุณอาจกำลังบริหารสปาที่ลูกค้าแน่นขนัดในย่านพร้อมพงษ์ หรือดูแลสำนักงานกฎหมายที่แสนวุ่นวายในสาทร แล้วทำไมต้องมาเสียเวลากังวลเรื่อง Bing Maps ด้วยล่ะ? แม้ Google จะครองตลาด แต่การมองข้ามแพลตฟอร์มอื่นอาจทำให้คุณเสียลูกค้าที่ค้นหาข้อมูลด้วยวิธีที่ต่างออกไปโดยไม่รู้ตัว ความจริงในปี 2025 คือ Bing Places for Business จัดการยากมากและเสียเวลาสุดๆ เรามาแกะปัญหานี้และหาทางออกไปด้วยกัน
จับจองพื้นที่ดิจิทัลของคุณในทุกแพลตฟอร์ม
ในฐานะเจ้าของธุรกิจในกรุงเทพฯ การโฟกัสไปที่ Google Maps นั้นถูกต้องแล้ว เพราะเป็นช่องทางหลักที่พาลูกค้า Walk-in เข้ามาหาคุณ แต่การคิดว่า Google คือที่ เดียว ที่ต้องมีตัวตนอาจเป็นเรื่องผิดพลาด เพราะลูกค้าของคุณใช้อุปกรณ์และแอปที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องมือค้นหาเริ่มต้นบนแล็ปท็อป Windows (ซึ่งก็คือ Bing) ไปจนถึง Apple Maps บน iPhone การจองชื่อธุรกิจและข้อมูลของคุณบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็เหมือนการซื้อที่ดินรอบๆ ร้านหลัก เป็นการปกป้องแบรนด์และเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าค้นหาเจอ
ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการเข้าไปเคลม (Claim) โปรไฟล์ธุรกิจของคุณบนทุกแพลตฟอร์มหลัก ไม่ใช่แค่ Google และ Bing แต่รวมถึง Apple Maps, Grab และไดเรกทอรีท้องถิ่นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณ การทำแบบนี้ช่วยให้คุณควบคุมข้อมูลได้เอง ป้องกันคู่แข่งหรือผู้ไม่หวังดีมาแก้ไขข้อมูล รับรองว่าเบอร์โทรและเวลาเปิดปิดถูกต้องเสมอ และสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการ จัดการชื่อเสียงออนไลน์ของคุณ
ความจริงที่ต้องยอมรับ: ไม่ใช่ทุกแผนที่จะจัดการง่ายเหมือนกัน
แม้เป้าหมายของการมีตัวตนในทุกที่นั้นเรียบง่าย แต่ขั้นตอนการทำจริงอาจน่าหงุดหงิดเอาเรื่อง ขอพูดตรงๆ เลยว่า Bing Places for Business ของ Microsoft สร้างปวดหัวให้เจ้าของธุรกิจอย่างมากในปีนี้ แม้มันจะเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญ แต่คุณต้องเข้าใจและคาดหวังกับกระบวนการอย่างสมเหตุสมผล
ตลอดปี 2025 เราพบปัญหาระบบการยืนยันตัวตนของ Bing อย่างต่อเนื่อง เจ้าของธุรกิจหลายรายแจ้งว่าขอยืนยันทางไปรษณีย์ไปก็เงียบหาย แม้ในกรณีที่หายากซึ่งได้รับรหัส PIN ทางจดหมาย ปุ่ม “Verify” บนเว็บไซต์กลับใช้งานไม่ได้เสียอย่างนั้น การติดต่อคนจริงๆ ที่ฝ่ายซัพพอร์ตของ Bing เพื่อแก้ปัญหาก็แทบเป็นไปไม่ได้ หลายคนถอดใจหลังจากรอคิวซัพพอร์ตนานหลายชั่วโมง

กับดักความคิด: “ถ้าไม่ใช่ Google ก็ไม่สำคัญ”
ได้ยินคำนี้บ่อยมาก เจ้าของร้านอาหารหรือผู้จัดการคลินิกดูข้อมูลแล้วเห็นว่า 95% ของลูกค้าออนไลน์มาจาก Google จึงสรุปเอาเองว่าการเสียเวลาทำ Bing หรือ Apple Maps นั้นเปล่าประโยชน์ นี่เป็นมุมมองระยะสั้นที่อันตรายและอาจสร้างความเสียหายให้ธุรกิจอย่างเงียบเชียบ
โปรไฟล์ที่ไม่มีคนดูแลคือความเสี่ยง ลองจินตนาการว่าลูกค้าค้นหาสปาของคุณบนแล็ปท็อปเครื่องใหม่ Bing อาจแสดงข้อมูลเบอร์โทรเก่า หรือแย่กว่านั้นคือขึ้นสถานะว่า “ปิดถาวร” เพียงเพราะไม่มีใครเข้าไปเคลมและแก้ไขข้อมูล คุณเสียลูกค้าที่ยังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่ามีอยู่ไปแล้ว การเพิกเฉยต่อแพลตฟอร์มรองเหล่านี้ไม่ใช่แค่การทิ้งเงิน แต่เป็นการปล่อยให้ข้อมูลผิดๆ ที่ทำลายภาพลักษณ์ธุรกิจแพร่กระจายไปโดยที่คุณควบคุมไม่ได้
ปัญหาหน้างานจริง
เมื่อเร็วๆ นี้ได้คุยกับผู้จัดการคลินิกทันตกรรมชื่อดังย่านทองหล่อที่เจอปัญหานี้พอดี คนไข้แจ้งว่าใน Bing Maps ขึ้นว่าคลินิกปิดวันเสาร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดและทำให้เสียยอดจองคิววันหยุดไปจำนวนมาก แต่ทางคลินิกก็ติดปัญหายืนยันบัญชีไม่ได้มาหลายเดือน ทำให้แก้ไขข้อมูลไม่ได้สักที
ทางออก: ใช้ระบบช่วย หรือมอบหมายให้มืออาชีพ
คุณมีธุรกิจที่ต้องดูแล ไม่ควรต้องมาเสียเวลาทั้งบ่ายเพื่อพยายามแก้ระบบยืนยันตัวตนที่พังๆ บนแพลตฟอร์มที่นำลูกค้ามาให้แค่ส่วนหนึ่ง การมานั่งไล่เคลม ยืนยัน และอัปเดตข้อมูลทีละแผนที่เป็นงานจุกจิกที่มูลค่าต่ำ ซึ่งดึงเวลาคุณไปจากสิ่งที่สำคัญกว่า

นี่คือจุดที่ เครื่องมือบริหารจัดการ เข้ามามีบทบาทสำคัญ ที่ OnEveryMap เราถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ระบบของเราจะจัดการกระบวนการลงข้อมูลและยืนยันตัวตนแทนคุณในทุกแพลตฟอร์มสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Google, Bing, Apple และอื่นๆ เราจัดการเรื่องเทคนิคที่น่าปวดหัวเบื้องหลัง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลธุรกิจของคุณถูกต้องและตรงกันทุกที่เสมอ ให้คุณได้โฟกัสกับการดูแลลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้านได้อย่างเต็มที่